ใครที่ใช้แมคน่าจะคุ้นเคยกับการใช้ปุ่ม Command + Space Bar เพื่อเปลี่ยนภาษากันดีนะครับ ซึ่งปุ่มนี้ก็ใช้เปลี่ยนภาษาใน iPhone, iPad เวลาที่ต่อคีย์บอร์ดแบบฮาร์ดแวร์ผ่าน Bluetooth ได้ด้วย แต่ใน iOS 9 แอปเปิ้ลได้เพิ่ม Hotkey ต่างๆ ให้เหมือนกับเครื่องแมคมากขึ้น ผลก็เลยทำให้ปุ่ม Command + Space Bar เปลี่ยนภาษาไม่ได้ซะอย่างนั้น T T
ความสามารถใหม่ของ iOS 9 อย่างหนึ่งคือมันรองรับ Hotkey แบบเดียวกับแมคด้วย ทำให้เมื่อเราใช้คีย์บอร์ดนอกแล้วเชื่อมกับอุปกรณ์ iOS ด้วย Bluetooth ก็สามารถกดปุ่ม Command + tab เพื่อสลับแอป, กด Command + C เพื่อก็อปปี้ หรือ Command + V เพื่อวางได้ แต่ในแมคนั้นปุ่ม Command + Space จะเป็นปุ่มมาตรฐานสำหรับเรียกระบบค้นหา Spotlight ครับ ทำให้ใน iOS 9 เมื่อกดปุ่มนี้แทนที่จะเปลี่ยนภาษากลับกลายเป็นเรียก Spotlight เพื่อค้นหาซะอย่างนั้น
iOS 9 ใช้ปุ่ม Ctrl + Space Bar เปลี่ยนภาษาแทน
ซึ่งเอาเข้าจริงๆ การใช้งานปุ่มนี้ก็ไม่ได้สะดวกเหมือนการใช้ Command + Space Bar เดิม เพราะผู้ใช้จะต้องกด Ctrl + Space Bar 2 ครั้งถึงจะเปลี่ยนภาษาได้ (กดครั้งแรกเพื่อแสดงเมนูเปลี่ยนภาษาออกมา ส่วนกดครั้งที่ 2 จะเป็นการเปลี่ยนภาษา) เราจึงขอแนะนำเทคนิคนี้…
ใช้ปุ่ม Caps Lock เปลี่ยนภาษาไปเลย
เทคนิคนี้ทีมงานเว็บแบไต๋ใช้มา 4 ปีครึ่งครับ แมคทุกตัวใช้วิธีนี้หมดคือใช้ Caps Lock เปลี่ยนภาษา วิธีการใช้เป็นดังนี้
- กดปุ่ม Ctrl + Space Bar เปลี่ยนภาษาของคีย์บอร์ดให้เป็นภาษาไทยก่อน
- เมื่ออยู่ในคีย์บอร์ดภาษาไทย ก็กด Caps Lock เพื่อเปลี่ยนเป็นภาษาอังกฤษได้เลย เมื่อไฟ Caps Lock ติด เราจะพิมพ์ภาษาอังกฤษ ส่วนถ้าไฟ Caps Lock ดับเราก็จะพิมพ์ภาษาไทย
- เมื่อต้องการพิมพ์ภาษาอังกฤษตัวใหญ่ ก็กด Caps Lock ให้เป็นภาษาอังกฤษแล้วใช้ปุ่ม Shift ตามปกตินั้นแหละ
เหตุผลที่เราสามารถใช้ Caps Lock เปลี่ยนภาษาโดยไม่มีผลกับการพิมพ์ เพราะว่าภาษาไทยเราไม่ต้องใช้ Caps Lock เลยยังไงครับ ส่วนภาษาอังกฤษเราก็ไม่ได้พิมพ์ตัวใหญ่ทั้งประโยคกันบ่อยๆ หรอก ใช้วิธีกด Shift ค้างเอาก็ได้ ซึ่งเอาเข้าจริงการใช้ปุ่ม Caps Lock เปลี่ยนภาษานั้นสบายมือมากกว่าการใช้ Command + Space Bar หรือใช้ปุ่ม ` ตรงมุมคีย์บอร์ดตามปกติของเครื่องวินโดวส์อีก เพราะสามารถใช้นิ้วก้อยกดเปลี่ยนภาษาได้เลย ไม่ต้องเอื้อมไปกดไกลๆ ทำให้ตอนนี้ทีมงานก็ใช้ปุ่ม Caps Lock เปลี่ยนภาษากับวินโดวส์ด้วย
ที่มา : beartai