


สำหรับใครที่มีปัญหาเรื่องการวางแผนการเงิน เพราะในแต่ละเดือนไม่สามารถควบคุมค่าใช้จ่ายให้พอใช้ไปจนถึงสิ้นเดือนได้ อาจจะต้องเริ่มว่างแผนทางการเงินของตัวเองอย่างจริงจัง แต่สำหรับบางคนอาจมองว่าการวางแผนการเงินนั้นช่างเป็นเรื่องยากลำบาก เพราะไหนจะค่ากินค่าใช้ ต่างๆ ที่ต้องรับผิดชอบแล้ว หากต้องมานั่งวางแผนการเงิน อาจจะยิ่งทำให้ต้องมานั่งประหยัดจนอดมื้อกินมื้อไปอีก แต่ในความจริงแล้วการบริหารการเงินที่ดีไม่จำเป็นจะต้องประหยัดด้วยการอด แต่เป็นการบริหารให้เราสามารถใช้จ่ายได้อย่างคล่องมือมากยิ่งขึ้น ยิ่งในปัจจุบันมีตัวช่วยอย่างแอปพลิเคชันต่างๆ ที่ช่วยให้คุณจัดการเรื่องการเงินต่างๆ ได้อย่างราบรื่น อีกทั้งยังสามารถบริหารเงินผ่านแอปจนมีเงินเก็บเป็นกอบเป็นกำได้อีกด้วย
หากใครที่กำลังคิดว่าจะเลือกบริหารเงินผ่านแอปดีหรือไม่ วันนี้เรามีเคล็ดไม่ลับสำหรับการออมเงินมาฝากกัน รับรองว่าหากว่าคุณลองนำไปปรับใช้ ผลลัพธ์ด้านการบริหารเงินให้มีเหลือใช้เห็นผลได้อย่างแน่นอน
1. ก่อนการบริหารเงินผ่านแอป ต้องปรับนิสัยการใช้จ่ายก่อน
เอาล่ะ หากว่าใครมีความแน่วแน่อย่างมากกับการเก็บเงิน และอยากจะบริหารเงินผ่านแอปเพื่อเป็นตัวช่วยให้สามารถเก็บเงินได้ เราลองมาเริ่มต้นในตอนแรกกันก่อน นั่นก็คือการตัดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นออกไปให้หมด เพราะเชื่อว่าคนที่มักจะเก็บเงินไม่อยู่ก็คือ การเห็นอะไรที่ถูกตาถูกใจก็อยากได้ไปเสียหมด หรือในแต่ละวันจะต้องซื้อกาแฟจากร้านราคาแพง หากลดค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ไปได้บ้างคุณอาจจะมีเงินเก็บเหลือในแต่ละเดือนมากยิ่งขึ้นก็ไปได้ แต่เราไม่ได้บอกว่าให้คุณหักดิบไม่ซื้อสิ่งเหล่านี้เลยทั้งหมด แต่เราขอให้คุณลองใช้วิธีการลดจำนวนดู ยกตัวอย่างเช่น หากเมื่อก่อนคุณต้องซื้อกาแฟในทุกเช้า ลองปรับเปลี่ยนมาเป็นการซื้ออาทิตย์ละ 3 ครั้ง ส่วนอีกสองวันที่เหลือลองชมกาแฟกินที่ออฟฟิศทดแทน นอกจากนี้ยังรวมถึงค่าใช้จ่ายอื่นๆ ระหว่างวัน ไม่ว่าจะเป็นค่าขนมจุกจิก ค่าช้อปปิ้งเมื่อเดินผ่านตลาดในตอนกลางวัน สิ่งเหล่านี้คุณค่อยๆ ลดการซื้อลง แล้วเอาเงินเหล่านี้ไปเก็บไว้ในบัญชีหรือโอนเก็บไว้ในแอปเก็บเงิน ก็จะช่วยให้คุณสามารถบริหารการใช้เงินได้คล่องตัวมากยิ่งขึ้น
2. สร้างนิสัยการเก็บเงินในแต่ละเดือนให้เคยชิน
หากปากคุณบอกว่าอยากเก็บเงินให้อยู่ แต่ยังไม่เริ่มสักที สิ่งที่คุณฝันไว้ก็คงไม่ถึงฝั่ง เพราะฉะนั้นหากอยากเริ่มเก็บเงินแล้ว การมองหาตัวช่วยเพื่อนำมาปรับใช้กับการเก็บเงินก็เป็นสิ่งที่น่าลองเช่นกัน ยิ่งในปัจจุบันมีเแอปพลิเคชันต่างๆ ออกมาเพื่อรองรับกับผู้ที่ต้องการเก็บเงินและบริหารเงินผ่านแอปมากยิ่งขึ้น ซึ่งคุณสามารถใช้สิ่งนี้ให้เกิดประโยชน์ได้ แต่คุณจะต้องบอกกับตัวเองให้เอาจริงเอาจังสักหน่อย โดยการตั้งกฎขึ้นมากับตัวเองว่า ในแต่ละเดือนคุณจะต้องเก็บเงินให้ได้กี่บาท โดยแยกเงินเป็นก้อนๆ เพื่อให้คุณสามารถบริหารจัดการได้ง่ายยิ่งขึ้น ยกตัวอย่างเช่น หากคุณมีเงินเดือนสองหมื่นบาท คุณอาจจะเลือกเก็บเดือนละ 3,000 บาท ส่วนเงินอีก 17,000 บาท ให้คุณจัดสรรปันส่วนในการใช้ชีวิต ไม่ว่าจะเป็นค่าบ้าน ค่ารถที่ต้องผ่อน ค่าใช้จ่ายจิปาถะต่างๆ ซึ่งเมื่อคุณได้จัดแจงเงินเป็นสัดส่วนว่าก้อนไหนสำหรับใช้ในเรื่องใด คุณก็จะสามารถบริหารเงินของตัวเองได้มากยิ่งขึ้น ทั้งนี้จำนวนเงินเก็บอาจจะต้องดูถึงภาระค่าใช้จ่ายอื่นๆ ในแต่ละเดือนของคุณด้วยว่ามีมากน้อยขนาดไหน เพื่อไม่ให้คุณได้ใช้ชีวิตยากลำบากในแต่เดือนนั่นเอง