ตอนนี้บนโลกโซเชียลของจีนกำลังมีประเด็นร้อนแรงเกี่ยวกับบุคคลที่ชื่อ “หนานจิงหงเจี่ย” หรือที่คนไทยเรียกกันว่า “เจ๊หงแห่งนานกิง” ซึ่งเป็นชายชาวจีนวัย 38 ปี ที่แต่งกายเป็นผู้หญิง และถูกแฉว่ามีพฤติกรรมล่อลวงผู้ชายกว่าพันคนมามีเพศสัมพันธ์ด้วย
เรื่องราวนี้ไม่ใช่แค่การหลอกลวงธรรมดา แต่ยังซับซ้อนและน่ากังวลกว่านั้นมาก ลองมาดูสรุปแบบเข้าใจง่ายกันครับ
“เจ๊หง” คือใคร และทำอะไร?
ตัวตน: เป็นชายชาวจีน อายุ 38 ปี (ไม่ใช่ชายชราวัย 60 ปีตามข่าวลือ) มีชื่อเสียงในโลกออนไลน์จากการแต่งกายเป็นผู้หญิง
พฤติกรรม: เขาถูกกล่าวหาว่าล่อลวงผู้ชายจำนวนมากมามีเพศสัมพันธ์แบบไม่ป้องกัน จากนั้นแอบถ่ายคลิปวิดีโอขณะมีเพศสัมพันธ์ แล้วนำไปขายต่อในโลกออนไลน์
จุดเริ่มต้นของเรื่องราว
เรื่องนี้แดงขึ้นมาเมื่อต้นเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา มีชายคนหนึ่งไปแจ้งความกับตำรวจเมืองนานกิงว่า คลิปส่วนตัวของเขาหลุดไปในอินเทอร์เน็ต ตำรวจจึงเริ่มสืบสวนจนพบว่าผู้ก่อเหตุคือ “เจ๊หง” และได้เข้าจับกุมตัวเขาในวันที่ 5 กรกฎาคม ในข้อหา “เผยแพร่สื่อลามกอนาจาร”
กลยุทธ์เด็ด: “ไหนๆ ก็มาแล้ว”
หลายคนสงสัยว่า ทำไมถึงมีคนตกเป็นเหยื่อมากมาย และไม่มีใครปฏิเสธเมื่อรู้ความจริง? คำตอบอยู่ที่กลยุทธ์ของ “เจ๊หง” ซึ่งแยบยลมากครับ
- การแต่งกาย: เขาจะแต่งตัวเป็นผู้หญิงมิดชิด สวมเสื้อแขนยาว กระโปรงยาว ใส่วิก และสวมหน้ากากอนามัย ทำให้สังเกตได้ยากว่าเป็นผู้ชาย
- ชวนไปอาบน้ำ: เมื่อเหยื่อมาถึงห้อง เขาจะเสนอให้ไปอาบน้ำเพื่อความสบายตัวก่อน
- รุกแบบไม่ทันตั้งตัว: ทันทีที่เหยื่อออกจากห้องน้ำ “เจ๊หง” จะเริ่มทำออรัลเซ็กส์ให้ทันที ทำให้เหยื่อเคลิบเคลิ้ม
- ความคิด “เลยตามเลย”: พอถึงจุดนี้ แม้เหยื่อจะรู้แล้วว่า “เจ๊หง” เป็นผู้ชาย แต่ด้วยความที่เคลิ้มไปแล้ว หรือคิดว่า “ไหนๆ ก็มาถึงนี่แล้ว” จึงยอมเลยตามเลยเพื่อให้ไม่เสียเที่ยว
ผลกระทบที่น่ากังวล: พบผู้ติดเชื้อ HIV
หน่วยงานควบคุมโรคของจีนได้ออกมาเปิดเผยข้อมูลที่น่าตกใจว่า ในกลุ่มผู้เสียหายที่ไปแจ้งความ มี 3 รายที่ตรวจพบว่าติดเชื้อ HIV แม้จะยังยืนยันไม่ได้ 100% ว่าติดเชื้อมาจาก “เจ๊หง” หรือไม่ แต่ทางการก็ได้ประกาศเตือนให้ทุกคนที่เคยมีเพศสัมพันธ์กับเขารีบไปตรวจสุขภาพโดยด่วน
กระแสร้อนในโลกโซเชียลจีน
เรื่องนี้ได้จุดประเด็นถกเถียงรุนแรงในสังคมจีน แบ่งออกเป็นหลายกลุ่มความคิดเห็น
- เสียงจากฝั่งผู้หญิง: ผู้หญิงหลายคนออกมาแสดงความโกรธและความกังวล บางคนจำได้ว่าผู้ชายในคลิปคือแฟนเก่าของตัวเอง! และมีการเตือนให้ผู้หญิงพากันไปตรวจสุขภาพก่อนแต่งงาน เพราะไม่สามารถไว้ใจฝ่ายชายได้อีกต่อไป
- การเหยียดเพศ: มีคนบางกลุ่มฉวยโอกาสนี้โจมตีกลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศ (LGBTQ+) โดยกล่าวหาว่า “พวกเกย์คือตัวปัญหา” ซึ่งความคิดเห็นเหล่านี้ก็ถูกคนส่วนใหญ่ประณามกลับไป
- การวิจารณ์ฝ่ายชาย: ชาวเน็ตจำนวนมาก โดยเฉพาะผู้หญิง ได้ออกมาวิจารณ์พฤติกรรมของผู้ชายที่ตกเป็นเหยื่อว่า เป็นเพราะความมักง่ายในเรื่องเพศ ไม่รู้จักป้องกัน และใช้ “ช่วงล่างนำทางชีวิต” จนตกเป็นเหยื่อได้ง่ายๆ
เรื่องราวของ “เจ๊หงนานกิง” จึงเป็นมากกว่าคดีอาชญากรรม แต่ได้สะท้อนปัญหาที่ซ่อนอยู่ในสังคม ทั้งเรื่องทัศนคติต่อเพศ การนอกใจ ความปลอดภัยทางเพศ และการขาดความเข้าใจในกลุ่ม LGBTQ+ ซึ่งกลายเป็นบทเรียนราคาแพงที่สังคมจีนกำลังถกเถียงกันอย่างหนักในขณะนี้
