พื้นที่กิจกรรมของกรุงเทพ เปลี่ยนเมืองด้วยการออกแบบเพื่อผู้คน

กรุงเทพฯ คือเมืองหลวงที่เต็มไปด้วยความเคลื่อนไหวทั้งกลางวันและกลางคืน แต่ในขณะที่เมืองพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้ง “พื้นที่กิจกรรมของกรุงเทพ” ก็กลายเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่กำหนดคุณภาพชีวิตของผู้คน โดยเฉพาะเมื่อเมืองเริ่มหันมาใส่ใจการออกแบบพื้นที่สาธารณะ พื้นที่สีเขียว และพื้นที่เปิดโล่งที่ไม่ใช่แค่สวย แต่ต้อง “ใช้งานได้จริง” และ “เข้าถึงได้สำหรับทุกคน”

บทความนี้จะพาคุณไปทำความเข้าใจว่า พื้นที่กิจกรรมในเมืองกรุงควรเป็นอย่างไรจึงจะตอบโจทย์คนเมืองได้อย่างแท้จริง พร้อมยกตัวอย่าง วัน แบงค็อก (One Bangkok) ที่ออกแบบพื้นที่กิจกรรมของกรุงเทพอย่างเป็นระบบและเป็นมิตรกับคนทุกกลุ่ม

พื้นที่กิจกรรมของกรุงเทพ ต้องไม่ใช่แค่ “โล่ง” แต่ควร “ใช้งานได้จริง”

หลายครั้งที่คำว่า “พื้นที่กิจกรรม” ถูกเข้าใจว่าเป็นเพียงสนามโล่ง ๆ หรือพื้นที่สีเขียวที่ให้คนมานั่งพักผ่อน แต่ในเชิงการออกแบบเมือง พื้นที่กิจกรรมหมายถึงพื้นที่ที่เชื่อมโยงผู้คนเข้ากับกิจกรรมที่เกิดขึ้นในพื้นที่นั้น ไม่ว่าจะเป็นตลาดชุมชน งานศิลปะกลางแจ้ง โยคะในสวน หรือแม้แต่พื้นที่ให้เด็กเล่นหรือผู้สูงวัยเดินออกกำลังกาย

พื้นที่เหล่านี้ไม่เพียงสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้คนกรุงเทพ แต่ยังกลายเป็นเครื่องมือสำคัญในการฟื้นฟูเมือง สร้างการมีส่วนร่วม และกระตุ้นเศรษฐกิจระดับย่อยได้อย่างมีประสิทธิภาพ

พื้นที่กิจกรรมแบบไหนที่กรุงเทพฯ ต้องการ ?

ในมุมมองของคนเมืองรุ่นใหม่ พื้นที่กิจกรรมของกรุงเทพควรตอบโจทย์ต่อไปนี้

เข้าถึงง่ายและเป็นมิตรกับทุกกลุ่ม

พื้นที่ที่ดีควรเข้าถึงได้โดยรถไฟฟ้า ทางเท้า หรือทางจักรยาน รองรับทั้งเด็ก ผู้สูงอายุ และผู้พิการได้โดยไม่ต้องมีเงื่อนไข

ยืดหยุ่นและปรับใช้ได้หลากหลายกิจกรรม

ไม่ใช่แค่สวนสาธารณะ แต่ควรสามารถปรับเปลี่ยนเป็นเวทีแสดงดนตรี งานอีเวนต์ หรือตลาดนัดชั่วคราวได้

ปลอดภัยทั้งกลางวันและกลางคืน

มีระบบแสงสว่างที่ดี มีกล้องวงจรปิด พื้นที่เปิดโล่งที่มองเห็นได้ง่าย และไม่อับสายตา

เชื่อมโยงกับบริบทของเมือง

ไม่ใช่พื้นที่ที่ตั้งอยู่โดดเดี่ยว แต่ควรเชื่อมต่อกับอาคาร ร้านค้า หรือศิลปะในเมือง เพื่อสร้างประสบการณ์แบบ Seamless

วัน แบงค็อก (One Bangkok) ตัวอย่างพื้นที่กิจกรรมของกรุงเทพที่ออกแบบอย่างเข้าใจผู้คน  

วัน แบงค็อก (One Bangkok) เป็นโครงการมิกซ์ยูสขนาดใหญ่ใจกลางกรุงเทพฯ ที่ไม่ได้สร้างแค่ตึกสูงหรือพื้นที่พาณิชย์ แต่ให้ความสำคัญกับ “ชีวิตของคน” ที่จะมาใช้ชีวิตอยู่ในเมืองนี้อย่างยั่งยืน โดยมีพื้นที่กิจกรรมหลากหลายที่ออกแบบให้รองรับไลฟ์สไตล์ของคนเมือง เช่น

• สวนเปิดโล่งและพื้นที่สีเขียวเชื่อมโยงกันทั่วทั้งโครงการ ช่วยลดความเครียด เพิ่มคุณภาพอากาศ และชวนให้คนออกจากอาคาร
• ลานกิจกรรมกลางแจ้งที่สามารถจัดอีเวนต์หรือกิจกรรมศิลปะได้ตลอดปี ซึ่งส่งเสริมวัฒนธรรมและการมีส่วนร่วมของชุมชน
• การออกแบบพื้นที่ทางเท้าที่กว้าง ปลอดภัย และเป็นมิตรต่อคนเดินเท้า เพื่อสร้างเมืองแห่งการเดินที่แท้จริง

นอกจากนี้ ยังมีการนำแนวคิด Smart City และ Green Urbanism เข้ามาใช้ในพื้นที่กิจกรรม เพื่อให้การใช้พื้นที่ไม่ใช่แค่ “สวย” แต่ยัง “ฉลาด” และ “ยั่งยืน”

การออกแบบพื้นที่กิจกรรม คือการออกแบบอนาคตของเมือง

ในยุคที่เมืองต้องแข่งขันกันด้วยคุณภาพชีวิต การมีพื้นที่กิจกรรมที่ดีไม่ใช่เรื่องของความสวยงามเท่านั้น แต่คือโครงสร้างสำคัญในการสร้างเมืองที่คนอยากอยู่ อยากมาเยือน และอยากใช้ชีวิตอยู่ทุกวัน

กรุงเทพกำลังเปลี่ยนแปลง และ วัน แบงค็อก (One Bangkok) คือหนึ่งในตัวอย่างของการเปลี่ยนผ่านไปสู่เมืองที่ “คิดถึงคนก่อนตึก” ซึ่งเชื่อว่าเมืองที่ดีเริ่มต้นจากพื้นที่เล็ก ๆ ที่ให้คนได้ออกมาเชื่อมโยงกัน