ศัลยกรรมปลูกผมปัญหาผมร่วง ผมบาง หรือหัวล้าน ไม่เพียงแต่กระทบภาพลักษณ์ภายนอกเท่านั้น แต่ยังส่งผลต่อความมั่นใจในชีวิตประจำวันของใครหลายคน “ศัลยกรรมปลูกผม” จึงกลายเป็นทางออกยอดนิยมที่ช่วยให้ผมกลับมาขึ้นใหม่อย่างเป็นธรรมชาติ โดยเทคนิคที่นิยมมากที่สุดในปัจจุบันคือ FUE (Follicular Unit Extraction) และ FUT (Follicular Unit Transplantation) ซึ่งแม้จะมีเป้าหมายเดียวกัน คือการปลูกผมถาวร แต่ทั้งสองวิธีนี้มีความแตกต่างกันทั้งในขั้นตอน ผลลัพธ์ และระยะเวลาการฟื้นฟู

รู้จักศัลยกรรมปลูกผมแบบ FUT

ศัลยกรรมปลูกผมแบบ FUT หรือที่เรียกว่า “Strip Method” เป็นเทคนิคดั้งเดิมที่ใช้กันมานาน แพทย์จะทำการตัดหนังศีรษะบริเวณด้านหลังออกมาเป็นเส้นยาว จากนั้นนำเส้นผมในแถบนั้นมาคัดแยกเป็นกราฟต์ (Graft) หรือหน่วยรากผมทีละกอ แล้วนำไปปลูกยังบริเวณที่ผมบางหรือศีรษะล้าน

ข้อดีของวิธีนี้คือสามารถเก็บเส้นผมได้ครั้งละมาก ๆ เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาผมร่วงบริเวณกว้าง เช่น บริเวณกลางศีรษะหรือตรงหน้าผาก อีกทั้งราคามักจะถูกกว่าแบบ FUE และใช้เวลาปลูกผมไม่นานมากนัก

อย่างไรก็ตาม FUT มีข้อจำกัดเรื่อง “รอยแผลเป็น” เพราะบริเวณที่ถูกตัดออกจะต้องเย็บปิดแผล ทำให้เกิดรอยแผลยาวด้านหลังศีรษะ ซึ่งอาจเห็นได้ชัดหากไว้ผมสั้น นอกจากนี้ผู้เข้ารับการรักษาอาจต้องใช้เวลาพักฟื้นนานกว่าแบบ FUE และอาจมีอาการตึงหนังศีรษะหลังทำได้

รู้จักศัลยกรรมปลูกผมแบบ FUE

ส่วน FUE (Follicular Unit Extraction) เป็นเทคนิคที่พัฒนาใหม่และได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน โดยแพทย์จะใช้เครื่องมือขนาดเล็กเจาะเอารากผมออกจากบริเวณด้านหลังศีรษะทีละกราฟต์ โดยไม่ต้องตัดหนังศีรษะออกเป็นแถบ วิธีนี้จึงไม่ทิ้งรอยแผลยาวเหมือน FUT แต่จะมีเพียงรอยจุดเล็ก ๆ ที่หายได้เองภายในไม่กี่วัน

ข้อดีของ FUE คือ แผลเล็ก ฟื้นตัวเร็ว และไม่ทิ้งรอยเย็บ เหมาะกับคนที่ชอบไว้ผมสั้นหรือมีไลฟ์สไตล์ที่ต้องการกลับไปทำกิจวัตรได้เร็ว อีกทั้งยังสามารถนำรากผมจากส่วนอื่นของร่างกาย เช่น หนวด เครา หรือหน้าอก มาใช้ปลูกเสริมได้ในบางกรณี

ข้อเสียคือ ใช้เวลาทำค่อนข้างนาน เนื่องจากต้องเก็บรากผมทีละกอ และค่าใช้จ่ายมักสูงกว่าแบบ FUT เพราะต้องใช้ความละเอียดและเทคโนโลยีขั้นสูง รวมถึงแพทย์ต้องมีความชำนาญเป็นพิเศษในการจัดเรียงแนวผมให้ดูเป็นธรรมชาติ

เลือกแบบไหนดี: FUE หรือ FUT

การเลือกว่าจะปลูกผมแบบ FUE หรือ FUT ไม่มีคำตอบที่ “ดีที่สุด” เพราะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ทั้งสภาพเส้นผม ความกว้างของพื้นที่ที่ต้องการปลูก งบประมาณ และความต้องการของผู้รับการรักษาเอง

  • หากคุณมีพื้นที่ผมร่วงกว้าง ต้องการปลูกผมจำนวนมาก และไม่กังวลเรื่องแผลด้านหลังศีรษะ FUT อาจเป็นทางเลือกที่เหมาะสม เพราะสามารถเก็บรากผมได้มากและมีค่าใช้จ่ายต่ำกว่า
  • แต่ถ้าคุณต้องการความเป็นธรรมชาติ ฟื้นตัวเร็ว และไม่อยากมีรอยแผลเป็น FUE จะตอบโจทย์กว่า แม้จะมีราคาสูงกว่า แต่ให้ผลลัพธ์ที่ดูเรียบเนียนและไม่ต้องพักฟื้นนาน

นอกจากนี้ อายุของผู้เข้ารับการปลูกผม ปริมาณเส้นผมที่เหลืออยู่บริเวณท้ายทอย และสภาพหนังศีรษะก็เป็นสิ่งสำคัญที่แพทย์จะพิจารณาร่วมด้วย เพื่อเลือกเทคนิคที่ให้ผลลัพธ์ดีที่สุดในระยะยาว

คำแนะนำก่อนตัดสินใจทำศัลยกรรมปลูกผม

ก่อนเข้ารับการปลูกผม ควรเข้ารับการประเมินโดยแพทย์เฉพาะทาง เพื่อวิเคราะห์สาเหตุของผมร่วง ตรวจสอบความแข็งแรงของรากผม และวางแผนการปลูกผมให้เหมาะสม การเลือกคลินิกที่มีมาตรฐาน แพทย์มีประสบการณ์ และใช้เครื่องมือปลอดภัย ถือเป็นสิ่งสำคัญที่สุด เพราะผลลัพธ์ของการปลูกผมขึ้นอยู่กับความชำนาญของแพทย์โดยตรง

หลังทำ ควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด เช่น หลีกเลี่ยงการเกาหรือสระผมแรง ๆ งดออกกำลังกายหนักในช่วงแรก และรับประทานยาบำรุงตามคำแนะนำ เพื่อให้รากผมใหม่แข็งแรงและงอกขึ้นได้อย่างเป็นธรรมชาติ

ศัลยกรรมปลูกผมทั้งแบบ FUE และ FUT ต่างมีจุดเด่นและข้อจำกัดในตัวเอง การเลือกวิธีที่เหมาะสมควรพิจารณาจากสภาพผม ความต้องการส่วนตัว และคำแนะนำจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ หากเลือกวิธีที่เหมาะสมกับตนเองและดูแลหลังทำอย่างถูกวิธี คุณจะได้ผลลัพธ์ผมใหม่ที่ดูหนาแน่น เป็นธรรมชาติ และช่วยคืนความมั่นใจให้กลับมาอีกครั้งอย่างถาวร